๑. ประโยคที่มีความคล้อยตามกัน ประโยคความรวมชนิดนี้ประกอบด้วยประโยคความเล็ก ตั้งแต่ ๒ ประโยคขึ้นไป มีเนื้อความคล้อยตามกันในแง่ของความเป็นอยู่ เวลา และการกระทำ เช่น
- ดวงอาทิตย์ขึ้นในเวลา ๖.๐๐ น. และตกในเวลา ๑๘.๐๐ น.
- อรนิติและกุลฉัตรเลือกเรียนวิชาฟ้อนรำ
๒. ประโยคที่มีความแย้งกัน ประโยคความรวมชนิดนี้ ประกอบด้วยประโยคเล็ก ๒ ประโยค มีเนื้อความที่แย้งกันหรือแตกต่างกันในการกระทำ หรือผลที่เกิดขึ้น เช่น
- เขาชอบกินอาหารรสจัดแต่หมอไม่ให้กิน
- เขาเป็นเด็กผู้ชายแต่ฉันเป็นเด็กผู้หญิง
- ไปบอกนายกิจหรือนายก้องให้มานี่คนหนึ่ง
- สายฝนหรือเอกอธิปเป็นประธานกลุ่ม
- คุณสมชายไม่อิจฉาใคร เขาจึงมีความสุข
- เขามีความเพียรพยายาม เพราะฉะนั้นเขาจึงประสบความสำเร็จ
๑. สันธานเป็นคำเชื่อมที่จำเป็นต้องมีในประโยคความรวม และจะต้องใช้ให้เหมาะสมกับเนื้อความในประโยค ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า สันธานเป็นเครื่องกำหนดหรือชี้บ่งว่าประโยคนั้นมีใจความแบบใด
๒. สันธานบางคำประกอบด้วยคำสองคำ หรือสามคำเรียงอยู่ห่าวกัน เช่น ฉะนั้น - จึง, ทั้ง - และ, แต่ - ก็ สันธานเช่นนี้เรียกว่า "สันธานคาบ" มักจะมีคำอื่นมาคั่นกลางอยู่จึงต้องสังเกตให้ดี
๓. ประโยคเล็กที่เป็นประโยคความเดียวนั้น เมื่อแยกออกจากประโยคความรวมแล้ว ก็ยังสื่อความหมายเป็นที่เข้าใจได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น