ยินดีต้อนรับเข้าสู่ : https://satakarn.blogspot.com/
เว็บบล็อกเพื่อการศึกษาภาษาไทย และภาษาล้านนา
จัดทำโดย ครูอิ่นคำ ศตกาญจน์ โรงเรียนบุญเรืองวิทยาคม
เว็บบล็อกเพื่อการศึกษา ภาษาไทย ภาษาล้านนา และส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม สำหรับนักเรียนและผู้สนใจทั่วไป

วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2563

นิทานพื้นบ้าน

รายวิชาวรรณกรรมท้องถิ่น ม. ๕/๒

 นิทานพื้นบ้าน

ลักษณะของนิทานพื้นบ้าน

      นิทานพื้นบ้านมีลักษณะเฉพาะที่เห็นเด่นชัด คือ เป็นเรื่องเล่าที่มีการดำเนินเรื่อง อย่างง่ายๆโครงเรื่องไม่ซับซ้อน วิธีการที่เล่าก็เป็นไปอย่างง่ายๆตรงไปตรงมา มักจะเริ่มเรื่องโดยการกล่าวถึงตัวละครสำคัญของเรื่อง ซึ่งอาจจะเป็นรุ่นพ่อ-แม่ของพระเอกหรือนางเอก แล้วดำเนินเรื่องไปตามเวลาปฏิทิน ตัวละครเอกพบอุปสรรคปัญหา แล้วก็ฟันฝ่าอุปสรรคหรือแก้ปัญหาลุล่วงไปจนจบเรื่อง ซึ่งมักจะจบแบบมีความสุข หรือสุขนาฏกรรม ถ้าเป็นนิทานคติ ก็มักจะจบลงว่า “นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…..” ถ้าเป็นนิทานชาดกก็จะบอกว่าตัวละครสำคัญของเรื่องในชาติต่อไป ไปเกิดเป็นใครบ้าง ถ้าเป็นนิทานปริศนาก็จะจบลงด้วยประโยค คำถาม ลักษณะของนิทานพื้นบ้าน กุหลาบ มัลลิกะมาส (2518, หน้า 99-100) ได้สรุปไว้ดังนี้

  1. เป็นเรื่องเล่าด้วยถ้อยคำธรรมดา เป็นภาษาร้อยแก้วไม่ใช่ร้อยกรอง
  2. เล่ากันด้วยปากสืบทอดกันมาเป็นเวลาช้านาน และเมื่อการเขียนเจริญขึ้น ก็อาจมีการเขียนขึ้นตามเค้าเดิมที่เคยเล่าด้วยปาก
  3. ไม่ปรากฏว่าผู้เล่าดั้งเดิมเป็นใคร อ้างแต่ว่าเป็นของเก่าฟังมาจากผู้เล่า ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญยิ่งในอดีตอีกต่อหนึ่ง ผิดกับนิยายสมัยใหม่ที่ทราบตัวผู้แต่ง แม้นิทานที่ปรากฏชื่อ ผู้แต่งเช่น นิทานของกริมม์ ก็อ้างว่าเล่าตามเค้านิทานที่มีมาแต่เดิมไม่ใช่ตนแต่งขึ้นเอง

 นิทานพื้นบ้าน ๑    นิทาน เรื่องเล่า 

จุดประสงค์ในการเล่านิทาน

การเล่านิทานจุดมุ่งหมายส่วนใหญ่อยู่ที่ ความสนุกสนานบันเทิงเป็นหลัก ส่วนจุดมุ่งหมายอื่นๆนั้นมักจะขึ้นอยู่กับผู้เล่า นิทานเรื่องเดียวกันผู้เล่าอาจจะมีจุดประสงค์ในการเล่านิทานแตกต่างกันไปบ้าง ซึ่งพอจะสรุปได้ดังนี้

  1. เพื่อความสนุกสนาน เป็นเครื่องบันเทิงใจในยามว่าง
  2. เพื่อใช้สั่งสอน ได้แก่ นิทานคติต่างๆ
  3. เพื่อให้ความรู้ในด้านต่างๆ เช่น นิทานเกี่ยวกับสถานที่ ปรากฏการณ์ ธรรมชาติ
  4. เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเผยแผ่ศาสนา เช่น รามายณะ นิทานเกี่ยวกับเทพเจ้าต่างๆ เป็นต้น

 

โอกาสในการเล่านิทาน
การเล่านิทานเล่าได้เกือบทุกโอกาส ได้แก่ ในงานประเพณีหรือพิธีกรรมทางศาสนา ในขณะที่ทำงานร่วมกัน เช่น ทำนา ทำไร่ เก็บฝ้าย จักสาน เย็บปักถักร้อย เตรียมของทำงานประเพณี ขณะเดินทาง เป็นต้น ในช่วงเวลาที่ไม่สามารถไปไหนหรือทำกิจกรรมอื่นใดได้สะดวก เช่น ในฤดูหนาว หรือช่วงฝนตก เป็นต้น ผู้เล่านิทานมักจะเป็นนักบวชหรือพระภิกษุโดยยกตัวอย่างเล่าแทรกไปในคำสอน เท่าที่สังเกตพบเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ การเล่านิทานน่าจะเป็นช่วงเวลากลางคืน ซึ่งเสร็จจากภารกิจการงานประจำวันมาพักผ่อนร่วมกัน เรื่องที่เล่าก็เป็นเรื่องนานาชนิด แต่พอตกดึกเรื่องที่เล่าก็มักจะเปลี่ยนมาเป็นเรื่องผี

องค์ประกอบของการเล่านิทานที่กล่าวมานี้ องค์ประกอบที่มีผลให้เนื้อเรื่องของนิทานเปลี่ยนแปลงไปมากที่สุดคือ ผู้เล่านิทาน นิทานที่แพร่กระจายไปตามถิ่นต่างๆมีความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากตัวผู้เล่า



อ้างอิง  https://nitanstory.com/     10 ส.ค. 63

             https://www.baanjomyut.com/library_2/folk_tales/02.html  10 ส.ค. 63

ไม่มีความคิดเห็น: